9plaza.com ลงประกาศขายสินค้าฟรีได้ตลอดทั้งวัน สนใจสมัครสมาชิกคลิกเลย สมัครสมาชิกคลิก


Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศบำรุงผิวใส

จังหวัดกรุงเทพมหานคร    เขตราชเทวี

    รายละเอียด

    Hi-Balanz Lycopene ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลโคพีน สารสกัดจากมะเขือเทศเข้มข้น
    Hi-Balanz Lycopene 60 mg. Full Dose (1 แคปซูล เท่ากับการรับประทานมะเขือเทศสุก 15-20 ลูก)

    วิธีรับประทาน วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น

    อย.เลขที่ 10-1-04741-1-0744
    สั่งซื้อได้ที่ --> http://www.hibalanz.com/productshow.php?id_prd=31

    สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ทรงพลังที่สกัดได้จากมะเขือเทศ
    ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวสดใสมีชีวิตชีวา
    ช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย

    ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระ
    สร้างแผงที่ผนังเซลล์ที่อาจกลายเป็นเนื้อร้ายในภายหลังได้
    ผิวสุขภาพดี อมชมพู ลดการเกิดฝ้า กระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ลดการเผาไหม้ของผิวจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น
    ลดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้านทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นดูมีเลือดฝาด


    ในบรรดาแคโรทีนอยด์ทั้งหมด
    ไลโคพีน จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ทรงพลังที่สุด
    ไลโคพีน มีฤทธิ์ที่ดีกว่าแบต้าแคโรทีน และ แอลฟาโทโคฟีรอล ถึง 2 และ 10 เท่า ตามลำดับ
    ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคพีนเองได้


    ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริมสารสกัดจากมะเขือเทศ
    Lycopene ไลโคพีน เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
    และช่วยในการป้องกันการเสื่อสภาพของเซลล์ในร่างกาย


    สารไลโคพีนนี้มีประสิทธิภาพเหนือว่าสารเบต้าเคโรทีน และสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์อื่นๆ
    ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และยังพบอีกว่าสารไลโคพีนนั้นสามารถช่วยลด
    โอกาสความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้มากถึง 21% และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
    สามารถป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระทำปฏิกิริยาสร้างแผงที่ผนังเซลล์ที่อาจกลายเป็นเนื้อร้ายในภายหลัง



    ประโยชน์ของไลโคพีน Lycopene
    1. บุคคลที่รับประทานมะเขือเทศบด 40 กรัมต่อวัน ได้รับสารไลโคปีน 16 กรัมต่อวัน
    จะมีอัตราของอาการ เผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ลดลง 40%
    หลังจากรับประทานมะเขือเทศติดต่อกันนาน 10 สัปดาห์

    2. ไลโคปีนช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก

    3. ผู้เข้ารับการทดสอบที่รับประทานมะเขือเทศในปริมาณสูงที่สุด 10 ครั้งต่อสัปดาห์
    มีอัตราเสี่ยง ในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำกว่าเมื่อเปรียบ
    เทียบกับผู้ที่รับประทานน้อยกว่า 1.5 ครั้งต่อสัปดาห์

    4. การรับประทานมะเขือเทศในอัตราสูงจะช่วยลดอัตราการเป็น
    โรคมะเร็งต่อมลูกหมากทุกประเภท ได้ถึง 35%
    และลดความรุนแรงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก 53%

    5. สารสกัดจากมะเขือเทศที่ประกอบด้วยไลโคปีน 30 มิลลิกรัมต่อวัน
    จะช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
    ในคนไข้ภายหลังจากการรักษา โรคมาแล้ว 3 สัปดาห์

    6. ไลโคปีนอาจจะมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก
    โดยจะลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนาวงจรชีวิตของเซลล์ ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะ G1)
    ไลโคปีนอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

    7. บุคคลที่มีสารสกัดพลาสมาไลโคปีนที่สูงที่สุดจะมี
    เปอร์เซ็นต์ของการเกิดการหนาตัวของหลอดเลือด IMT (intima-mediated thickness)
    ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดระยะเริ่มต้นได้ต่ำสุด ถึง 90%
    ดังนั้นการได้รับไลโคปีนในปริมาณที่สูงอาจช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

    8. การรับประทานไลโคปีนสามารถลดอัตราเสี่ยงของการ เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอุดตันต่ำกว่า 60%
    สำหรับบุคคลที่มีสารสกัดไลโคปีนสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีสารสกัดไลโคปีนต่ำสุดไลโคปีน
    อาจจะลดความรุนแรงของการเผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์


    ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้
    ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม
    โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน

    โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ
    จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene)
    เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ


    นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีน
    ที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึม
    ในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า

    ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน
    จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน


    E-Mail : info[At]hibalanz.com
    Tel : 02-612-9170, 086-332-0700
    Website : http://www.hibalanz.com/productshow.php?id_prd=31
  • ข้อมูลประกาศ

    บริษัทไฮบาลานซ์ จำกัด

    490 บาท

    อยากขาย

    ใหม่

    ธุรกิจ (บริษัท, ร้านค้า)

    15 ม.ค. 57 13:59 น.

    -

    บริษัท ไฮบาลานซ์ จำกัด 128/111 อาคารพญาไท พลาซ่า ชั้น9 ห้องM เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10400

    0863320700

    www.hibalanz.com/productshow.php?id_prd=31

    hibalyc2@yahoo.com

    364

    จัดการประกาศ

    ติดต่อเจ้าของประกาศ คลิก!

    แจ้งประกาศไม่เหมาะสม

    เก็บเข้า Bookmark

    อย่าลืมบอกว่าพบประกาศนี้ที่
    www.9plaza.com นะคะ